ข้อห้ามและข้อควรทราบในการใช้คอนแทคเลนส์

• ห้ามใส่นอน และไม่ควรใส่เกินวันละ 10 ชม
• ควรใส่คอนแทคเลนส์ก่อนแต่งหน้า และถอดออกก่อนล้างเครื่องสำอางค์
• ห้ามใช้น้ำก๊อกล้างเลนส์และอุปกรณ์สำหรับเลนส์ ควรใช้น้ำเกลือ หรือน้ำยาล้างเลนส์โดนเฉพาะเท่านั้น
• ควรเปลี่ยนตลับแช่เลนส์ทุก 1-3 เดือน เพื่อลดการสะสมเชื้อโรค
• ห้ามใส่ลงน้ำ หากจำเป็นควรใช้แบบรายวันและทิ้งทันทีเมื่อใช้เสร็จ
• ห้ามแลกกันใส่กับผู้อื่นโดยเด็ดขาด เพื่อป้องกันการติดเชื้อ
• ล้างมือด้วยสบู่ทุกครั้งก่อนสัมผัสคอนแทคเลนส์ ไม่ควรใช้สบู่ที่ผสมน้ำหอม เบบี้ออยล์ หรือโลชั่น
• เมื่อเลนส์มีรอยฉีกขาด หรือเกินกำหนดการใช้งาน ควรทิ้งเลนส์นั้นทันที
• หากใส่แล้วมีอาการเคืองตา ตาแดง น้ำตาไหล ควรรีบถอดออกทันที

จะดูอย่างไรว่าบิ๊กอายตัวนี้โตจริงหรือแค่หลอกลวง?

จากบทความก่อนที่เราได้พูดถึงค่า Effect กันไปแล้ว (ค่า Effect ของบิ๊กอายหมายถึงอะไร?) และสรุปได้ว่าเป็นค่าที่เชื่อถือไม่ค่อยได้ซักเท่าไร เพราะแต่ละร้านก็มีมาตรฐานในการวัดและการตั้งค่า Effect แตกต่างกันออกไป และโดยส่วนใหญ่ในประเทศไทยเอง ก็ไม่ได้ใช้เครื่องมืออะไรในการวัดเสียด้วยสิ เพราะฉะนั้นก็คงไม่แปลก ที่หลายๆคน หรือคุณเองอาจจะเคยซื้อบิ๊กอายที่โฆษณาว่า Effect 18 19 แต่ใส่มาก็โตเท่าไอ Effect 15.5 ที่มีอยู่ที่บ้านเลยหนิ!!?

ดังนั้น เราจะมาว่ากันต่อในบทความนี้กันค่ะ ว่าเราจะมีวิธีการดูคอนแทคเลนส์สียังไง ว่าใส่แล้วจะโตหรือไม่โต?

วิธีที่ดีสุด เพื่อความจริงแท้และแน่นอน เราจะต้องเห็นภาพจริงของตัวเลนส์เสียก่อน หรือว่าเห็นของจริงเลยได้ก็ยิ่งดีนะคะ จากนั้นก็ทำตามขั้นตอนต่อไปนี้ค่ะ

1. ตรวจดูค่า DIA (Diameter) ที่ฉลาก หากค่า DIA นั้นมีค่ามากกว่า 15.0 ขอให้สงสัยไว้ก่อนว่าฉลากนั้นอาจจะเอาค่า Effect มาพิมพ์หรือว่าเป็นการพิมพ์ฉลากที่อัพค่า DIA ให้เกินจริงค่ะ เพราะปกติแล้วในประเทศเกาหลีจะมีกฏหมายเป็นข้อจำกัดว่าจะผลิต DIA ได้ไม่เกินเท่าใดค่ะ

2. ถ้า DIA 14.0 ถือว่าเป็นเลนส์ขนาดปกติและเล็กที่สุดสำหรับบิ๊กอายทั่วๆไป
DIA 14.2 ก็จะใหญ่ขึ้นมาหน่อย แต่ไม่มาก ไม่ถึงกับเว่อร์
DIA 14.5 อันนี้เริ่มอันตรายค่ะ ถ้าลายใหญ่ถือว่าโตมากทีเดียว (อ่านรายละเอียดในข้อถัดไป)
DIA 14.7, 14.8, 15.0 อันนี้โตมว๊ากกกกกค่ะ ถ้าตาเล็กไม่แนะนำเพราะจะเอเลี่ยนอย่างรุนแรง

3. หากว่า DIA ที่เราเห็น มีค่าเท่าเดิมกับที่เราเคยใส่ ให้ดูที่ขอบใสของเลนส์นั้นๆค่ะ หากว่าขอบใสเหลือมาก ก็เท่ากับว่าลายที่พิมพ์มาเล็ก ใส่แล้วก็จะไม่โตมาก (งงมั้ยคะ?) เพราะว่าขอบใสนั้นไม่ได้ช่วยทำให้ตาเราดูโตขึ้นแต่ประการใด จะมีแค่พื้นที่ของลาย (สี) ที่อยู่บนตัวเลนส์เท่านั้นที่จะทำให้เราดูตาโตขึ้นได้ค่ะ สรุปคือเลนส์ที่มี DIA ใหญ่ ก็ไม่ใช่ว่าจะใส่แล้วโตกว่าเลนส์ที่มี DIA เล็กอยู่เสมอไป หากว่าเลนส์ใหญ่ แต่ขอบใสเยอะ ก็คือใหญ่แต่ไร้ประโยชน์นั้นเองค่ะ

ลองดูรูปเป็นตัวอย่างนะคะ ในรูปเป็นยี่ห้อ GEO Diameter 14.0 ทั้งหมด ลองดูขอบกับตอนที่ใส่แล้วว่าอันไหนโตกว่านะคะ Hint: สังเกตที่ขอบใสดีๆค่ะ


มาถึงวิธีถัดไปกันบ้าง แล้วถ้าหากว่าเราจะสั่งซื้อบิ๊กอายในอินเตอร์เนตล่ะ ทางร้านก็ไม่ค่อยแปะรูปเลนส์เสียด้วยสิ . . . อย่าเพิ่งท้อค่ะ เรายังมีอีกวิธีนึงเพื่อเลือกซื้อบิ๊กอายออนไลน์ นั้นก็คือการดูรูปรีวิวค่ะ ในเว็บบอร์ดของร้านออนไลนส์ส่วนใหญ่นั้น จะมีรูปรีวิวต่างๆทั้งของลูกค้าและแม่ค้าเอง แต่วิธีนี้จะเวิร์คก็ต่อเมื่อผู้รีวิวเป็นคนเดียวกันเท่านั้นนะคะ เพราะขนาดตาของเราไม่ได้เหมือนกันทุกคนค่ะ ถึงแม้ว่าจะดูรูปทรงคล้ายกันมาก แต่เราไม่สามารถดูขนาดตาจากรูปถ่ายได้ค่ะ ถ้าต้องการเปรียบเทียบขนาดจริงๆ จะต้องเปรียบเทียบจากตาของผู้ใส่ดวงเดียวกันเท่านั้นค่ะ

สุดท้ายนี้ หากว่าไม่ชัวร์จริงๆ ขอให้ถามค่ะ แม่ค้า/พ่อค้าที่ดี เต็มใจที่จะช่วยเหลือคุณอย่างแน่นอนค่ะ หวังว่าจะเลือกซื้อบิ๊กอายกันได้สวยถูกใจทุกคนนะคะ :)

ค่า Effect ของบิ๊กอายหมายถึงอะไร?

ในความหมายของเรา ค่า Effect คือขนาดพื้นที่สีของเลนส์ วัดเมื่อเลนส์แบนราบค่ะ
เพราะฉะนั้น ขนาดของสีเมื่อแบนราบ สามารถโตกว่า Diameter ได้
เนื่องจาก Diameter เป็นการวัดความกว้างของเลนส์ในขณะที่เลนส์โค้งค่ะ

อย่างไรก็ดี ความหมายและมาตรฐานการวัด Effect ของแต่ละประเทศ แต่ละร้าน ต่างกันไปค่ะ

สำหรับในประเทศเกาหลี ร้านส่วนใหญ่ จะไม่ได้บอก Effect เหมือนกับบ้านเราค่ะ
แต่จะบอกเป็นขนาดของสี ที่วัดตอนเลนส์โค้งอยู่ ซึ่งค่าที่ออกมาจะน้อยกว่า diameter แน่นอนค่ะ
ที่เป็นแบบนี้เพราะว่าประเทศเกาหลี ไม่ได้นิยมเลนส์ที่ใหญ่โตมโหฬาร
ค่าเหล่านี้จึงไม่จำเป็นที่จะต้องเป็นเลขสูงๆเพื่อเป็นการชวนซื้อแต่อย่างใด

ยกตัวอย่างที่ 1 ร้านหนึ่งของเกาหลี



รูปอธิบายค่าต่างๆของเค้า



ยกตัวอย่างที่ 2 อีกร้านหนึ่งในเกาหลี
ดูๆไป ขนาดเกาหลีเอง วัดออกมาก็ได้ไม่เท่ากันค่ะ



มาดูฝั่งญี่ปุ่นกันบ้าง ญี่ปุ่นเองน่าจะถือว่าเป็นแบบอย่างให้กับบ้านเราค่ะ
เพราะญี่ปุ่นก็ชอบอะไรโตๆ แบ้วๆ เหมือนกับบ้านเรานี่แหละ (หรือเราไปชอบเหมือนเค้า?)
จึงได้วัด Effect ในขณะที่เลนส์แบนราบ แต่มันอาจจะเป็นเพราะมันวัดง่ายกว่าล่ะนะ

ยกตัวอย่างที่ 3 ร้านหนึ่งในญี่ปุ่น
เลนส์ 14.2 mm Effect 14.8



ยกตัวอย่างที่ 4 อีกร้านหนึ่งในญี่ปุ่น
เลนส์ 14.0 mm Effect 14.3 mm



แถมวิธีวัดจากร้านในตัวอย่างที่ 4



มาถึงประเทศต่อไป นั้นคือจีน!! อาหมวยอย่างจีน มีที่ไหนจะอยากตาเล็ก
จีนก็ชอบแบ้วๆ โตๆเหมือนกัน และดูเหมือนปะเทศนี่จะสับสนกันเข้าไปใหญ่
บางทีก็พิมพ์ค่า Effect ไปแทนที่ Diameter เลยทีเดียว
เพราะฉะนั้น แบรนด์ที่สั่งแปะฉลากเพื่อไปส่งออกจากเกาหลีไปจีน
บ้างก็จะเห็น Diameter 15.8, 16.0 ขอให้ทราบไว้ว่า นั้นมัน Effect ของเรานี่แหละ

ส่วนอันนี้คือวิธีวัด Effect ของจีนค่ะ



พูดมาตั้งเยอะ แล้วประเทศไทยล่ะ?? Effect คืออะไร วัดกันอย่างไร
คำตอบคือ ส่วนใหญ่ไม่วัดค่ะ บ้างก็คิดเอง บ้างก็ลอกกันมา
บ้างลูกค้าก็เป็นคนคิดให้ พี่มี 18 มิลมั้ย มีสิ อันนี้ไงน้อง ถามไรมามีหมดค่ะ
แต่ส่วนใหญ่ก็จะว่าไปตามผู้นำเข้ารายใหญ่ค่ะ เค้าตั้งมาเท่าไร เราก็เรียกตามๆกันไป
จนคำว่า Effect ในบ้านเราอาจจะไม่ได้หมายความถึงพื้นที่ของสีบนเลนส์อีกต่อไป
แต่หมายถึงอะไรไม่รู้ ที่ว่ายิ่งมากก็ยิ่งดีล่ะมั้ง ???

แล้วทีนี้ จะรู้ได้อย่างไร ว่าเลนส์ไหนใหญ่จริง เลนส์ไหนก็แค่โม้
ขอแบ่งไปขึ้นตอนต่อไปนะคะ -> จะดูอย่างไรว่าบิ๊กอายตัวนี้โตจริงหรือแค่หลอกลวง? :)

ค่าสายตาคืออะไร ไม่เคยวัดสายตา ใส่บิ๊กอายได้มั้ย?

คำถามนี้ก็เป็นคำถามที่พบบ่อยอีก 1 ข้อค่ะ เพราะโดยส่วนมากแล้ว ผู้ที่ไม่ได้สายตาสั้น และไม่เคยใส่แว่นหรือคอนแทคเลนส์มาก่อน ก็จะไม่คุ้นเคยกับคำว่า ค่าสายตา หรือการวัดสายตา ว่ามันเป็นยังไง วัดที่ไหน อย่างไร เท่าไร แต่คนที่สายตาสั้นอยู่แล้ว พอได้ยินคำถามก็จะงง เอ๊ะ!? นี่เธอไม่รู้จักการวัดสายตาหรือเนี่ย

ค่าสายตา ประกอบด้วยตัวเลข 3 ค่า ที่แสดงความหมายต่างกันออกไปค่ะ

1. ค่าสายตาสั้นหรือค่าสายตายาว
ค่าสายตาสั้น จะมีเครื่องหมายลบนำหน้า (-)
ค่าสายตายาวจะมีเครื่องหมายบวกนำหน้าค่ะ (+)

2. ค่าสายตาเอียง (มีเครื่องหมายบวกลบกำกับ)

3. องศาที่เอียง มีหน่วยป็นองศาค่ะ

ค่าสายตานั้น เราสามารถวัดได้ที่ร้านแว่นทั่วๆไป โดยส่วนใหญ่ทางร้านจะให้เราวัดด้วยสองวิธี คือการอ่านชาร์ตและใช้เครื่องวัด การวัดนั้นใช้เวลาไม่นาน ไม่เจ็บแต่อย่างไร ประมาณ 5-10 นาทีก็เสร็จเรียบร้อยแล้วค่ะ สำหรับค่าใช้จ่ายก็อยู่ที่ครั้งละประมาณ 100 บาท หากว่าเราไม่ได้ซื้อสินค้าในร้านแว่นนั้นๆค่ะ แต่ถ้าเราจะตัดแว่นในร้าน ส่วนใหญ่ทางร้านก็จะบริการวัดค่าสายตาให้ฟรีค่ะ

แล้วถ้าไม่อยากวัดสายตาล่ะ ไม่เคยวัดมาก่อน จะซื้อบิ๊กอายใส่เพื่อความสวยงามเลยได้มั้ย? คำตอบก็คือ ถ้าคุณมองเห็นเป็นปกติในชีวิตประจำวัน ก็ไม่จำเป็นที่จะต้องวัดค่าสายตาค่ะ และเลือกใส่บิ๊กอายสำหรับค่าสายตาปกติ หรือ ค่าสายตา 0.00 ได้เลยค่ะ ที่สำคัญคือ ถ้าไม่เคยวัดสายตามาก่อน อย่าได้ริลองซื้อแบบมีค่าสายตามั่วๆมาใส่โดยการสุ่มเด็ดขาดนะคะ เพราะมีแต่ใส่แล้วจะปวดหัวปวดตา เดินเหมือนคนเมา ซื้อมาเสียเปล่า ได้แต่ทิ้งอย่างเดียวจ้า

ความนิ่มหรือความแข็งของบิ๊กอาย แบบไหนดีกว่ากัน?

บางคนที่เพิ่งลองบิ๊กอายหรือคอนแทคเลนส์ยี่ห้อใหม่
อาจจะแปลกใจว่า อุ้ย! ทำไมเลนส์นี้นิ่มจัง หรือเลนส์นี้แข็งจัง เสียหรือป่าวเนี่ย!?
ใจเย็นๆก่อนค่ะ เพราะนี้เป็นเรื่องปกติของเลนส์ที่ผลิตจากคนละโรงงาน
หรือไม่ก็โรงงานเดียวกัน แต่เป็นเลนส์คนละสเป็คกันค่ะ

ที่นี่ เราก็อาจจมีคำถามเพิ่มว่า แล้วทำไมต้องมีหลายๆแบบด้วย
ทำไมไม่ทำแบบที่ดีที่สุดไปเลยอันเดียว..?
งั้นเรามีดูข้อดีข้อเสียของเลนส์แต่ละแบบกันก่อนนะคะ

เลนส์บาง อมน้ำมาก ส่วนใหญ่จะินิ่มค่ะ
ข้อดี ออกซิเจนไหลผ่านได้ดี สบายตา
ข้อเสีย ตั้งทรงยาก (ใส่ยากสำหรับบางคน) ตาแห้งเร็ว

เลนส์หนา อมน้ำน้อย ส่วนใหญ่จะแข็ง
ข้อดี ตั้งทรงง่าย ถ้าอมน้ำน้อยกว่าก็จะตาแห้งยากกว่า
ข้อเสีย ออกซิเจนไหลผ่านได้ไม่ค่อยดี ใส่แล้วรำคานเหมือนมีอะไรอยู่ในตา

ด้วยเหตุนี้ คำตอบสำหรับคำถามที่ว่า อันไหนดีที่สุดล่ะ?
ก็คือ "ไม่มีเลนส์ไหนในโลกที่ดีที่สุดสำหรับทุกคนค่ะ"
เหมือนกับเสื้อผ้า ที่ทำไมไม่มีไซส์เดียว แบบเดียว
นั้นก็เพราะว่าโครงสร้างร่างกายเราไม่เหมือนกันทุกคน
รวมถึงดวงตาของเราก็ไม่เหมือนกันทุกคน
ดังนั้นผู้ผลิตทั้งหลาย ต่างก็ค้นคว้าและวิจัยเพื่อพัฒนาเลนส์
ที่เค้าคิดว่าเหมาะสมกับคนส่วนใหญ่ที่สุดค่ะ
แต่จาำกหลายๆยี่ห้อที่มีขายในท้องตลาด อันไหนจะเหมาะกับเราที่สุด
อันนี้ก็ต้องทดลองกันเองล่ะค่าาา :)

เพิ่มเติมไว้ เผื่อเพื่อนๆอยากจะลองเลือกซื้อคอนแทคเลนส์กันนะคะ
เรียงลำัดับความนิ่มของเลนส์รายปี (จากความรู้ึสึกเราผู้เขียนเอง)
จากนิ่มสุด -> แข็งสุด
NEO Vision > Barbie con > EOS > Vassen, Seeshell > GEO > Dueba

ตาตี่แบบอาหมวย ใส่บิ๊กอายรุ่นไหนดี?

หลังจากคราวที่แล้วเราได้พูดถึงสาวที่มีตาเรียวยาวกันไปแล้ว
ครั้งนี้เราจะมาพูดถึงสาวๆที่มีตาตี่แบบอาหมวยสุดๆกันบ้าง
ซึ่งไอดอลของเราสำหรับสาวหมวยก็คือคุณคริส หอวัง นั้นเองค่ะ

บางคนอาจจะสงสัยว่า ตาเล็กขนาดนี้ จะใส่บิ๊กอายได้ด้วยเหรอ
คำตอบก็คือได้ค่ะ ถ้าเราเลือกรุ่นที่มีขนาดเหมาะสม
รับรองว่าอาหมวยก็สวยไม่แพ้ใครเลยนะคะ ;)

สำหรับวันธรรมดาๆในชีวิตประจำวัน แนะนำให้เลือกสีดำรุ่นเล็กที่สุดค่ะ
เอาเล็กที่สุดเท่าที่จะหาได้แล้วกันนะคะ DIA หรือเส้นผ่านศูนย์กลาง
ก็ไม่ควรจะมากไปกว่า 14.2 มิลลิเมตร เนื่องจากตาของเราก็เล็กอยู่แล้ว
ถ้าใส่ขนาดใหญ่มากเท่าไร เลนส์ก็จะผิดพื้นที่ตาไปมากเท่านั้น
ทำให้ออกซิเจนไหลผ่านได้น้อย นอกจากจะเคืองตาแล้ว ยังเสียสุขภาพตาอีกค่ะ



คอนแทคเลนส์สีดำขนาดเล็ก จะช่วยเติมเต็มพื้นที่ตาอันน้อยนิดของสาวหมวย
ทำให้ตาเราดูมีประกาย มีชีวิตชีวา และหน้าเด็กลงอีกด้วยนะ!

แล้วถ้าเกิดว่าอยากใส่แบบสีๆ ลวดลายวิ้งๆอย่างคนอื่นเค้าบ้างล่ะ?
ลองสีน้ำตาลอ่อนเป็นประกายที่มีขนาดไม่โตมาก อย่างรุ่น Honey Wing (GEO, 14.0)
หรือ Glamour ฺBrown (NEO Vision, 14.2) ก็สวยไม่หยอกเลยค่ะ

ตาเรียว ตาเล็ก ใส่บิ๊กอายรุ่นไหนดี?

สำหรับคนที่มีตารูปทรงเรียวยาว อย่าเพิ่งเสียใจไปว่าใส่บิ๊กอายอะไรก็ไม่สวย
เพราะถ้าเราเลือกสิ่งที่เหมาะกับเรา ก็จะเปรี้ยว เฉี่ยว เ็ป็นสาวฮ๊อตได้ไม่ยากเลยค่ะ
ขอตัวอย่างของลุคนี้ก็คือ คุณพลอย เฌอมาลย์ และคุณอั้ม พัชราภา นั้นเองค่ะ :)





เทคนิคง่ายๆ ก่อนอื่น เราต้องเข้าใจลักษณะตาของเราก่อนค่ะ
เนื่องจาก ตาของเรามีลักษณะยาว แต่แคบ
ถ้าใส่เลนส์ที่ใหญ่เกินไป เราก็จะมองเห็นเลนส์อยู่แค่ครึ่งวงเท่านั้น
ซึ่งการใส่เลนส์ลักษณะนี้ ไม่ได้ทำให้เราดูดีขึ้น แต่กลับทำให้ดูน่ากลัวค่ะ
เพราะฉะนั้น การเลือกคอนแทคเลนส์สีหรือบิ๊กอายสำหรับคนที่มีตาเรียวนั้น
แนะนำว่า ไม่ต้องเลือกที่มันใส่แล้วใหญ่โตมโหฬารมากนัก
ถ้าต้องการสีธรรมชาติเช่น ดำหรือน้ำตาล ให้ลองเลือกเลนส์ที่พิมพ์ลายขนาดเล็ก
เช่น Acuvue Define, CK-105 หรือ BC-102 ของ GEO (DIA 14.0)
จะทำให้ตาเราดูกลม เข้ม ชัดเจน และน่าสนใจมากยิ่งขึ้นค่ะ

อีกทางเลือกนึงสำหรับสาวๆที่รักการแต่งหน้าก็คือ เลือกเลนส์ที่เปลี่ยนสีตา
เพื่อเพิ่มเสน่ห์และลูกเล่นให้กับการแต่งตามากขึ้น ถ้าอยากรู้ว่าลุคของคุณจะเปลี่ยนไปได้แค่ไหน
ลองมองหา Freshlook Colorblends, 3 Tone (GEO), หรือ Glamour (NEO Vision) มาใส่ดูนะคะ :)

สายตาสั้นใส่บิ๊กอายได้หรือป่าว?

ได้แน่นอนค่ะ บิ๊กอายก็เหมือนกับคอนแทคเลนส์อย่างนึง
ที่มีค่าสายตาสำหรับคนที่สายตาสั้นด้วย
โดยทั่วไปค่าสายตาของบิ๊กอายจะมีตั้งแต่
0.00 หรือ ค่าสายตาปกติ ถึง -10.00 หรือสั้น 1000 ค่ะ
ค่าสายตา -0.50 ถึง -5.00 จะเพิ่มทีละ -0.25
ส่วนค่าสายตาเกิน -5.00 จะเพิ่มทีละ -0.50 เป็นสเต็บไปค่ะ

สำหรับบิ๊กอายรายปี ยังมีข้อดีอีกอย่างคือมันจะบรรจุมาในขวด ขวดละ 1 ชิ้น
ถ้าเรามีค่าสายตาสองข้างไม่เท่ากัน เรายังสามารถสั่งข้างละค่าสายตาได้อีกด้วย
ไม่ต้องเปลืองเงินซื้อแบบเดียวกันถึง 2 คู่ค่ะ :)

แล้วถ้าสายตายาวหรือสายตาเอียงละ?
จริงๆแล้วบางโรงงานก็สามารถผลิตได้ค่ะ แต่ผู้ขายไม่ค่อยสั่งมาขายกัน
เพราะว่ากลุ่มลูกค้าในประเภทนี้ มีน้อยเกินไปค่ะ
ถ้าสายตายาวหรือเอียงแล้วอยากแอ้บแบ้ว
คงต้องเลือกใส่แบบสายตาปกติไปก่อน แล้วใส่แว่นยามจำเป็นแทนค่ะ

ใช้น้ำเกลือล้างคอนแทคเลนส์ได้จริงหรือ?

คำตอบคือ ได้ค่ะ แต่ต้องเป็นน้ำเกลือที่ใช้ล้างคอนแทคเลนส์โดยเฉพาะนะคะ
สามารถสังเกตได้ว่าจะมีคำว่า "For contact lens use" ที่ข้างขวดค่ะ
ในประเทศไทย ที่หาได้ทั่วไปจะเป็นยี่ห้อ Klean & Kare ขวดสีเขียว
หาซื้อได้ตามร้านขายยา ราคาไม่แพงด้วยค่ะ


ถ้าเราใช้น้ำเกลือในการล้างเลนส์ก็ประหยัดได้เยอะทีเดียว
แต่ก็มีข้อควรระวังคือน้ำเกลือนั้นใช้ล้างคอนแทคเลนส์ได้เท่านั้น
"ห้ามใช้แช่คอนแทคเลนส์โดยเด็ดขาด"
เพราะน้ำเกลือไม่มีความสามารถในการฆ่าเชื่อโรคและแบคทีเรียได้
จึงไม่เพียงพอที่จะทำความสะอาดเลนส์ของเราได้ค่ะ
ดังนั้นเรายังคงต้องใช้น้ำยาทำความสะอาดคอนแทคเลนส์ในการแช่เลนส์อยู่ดีจ้า

สำหรับบางคนที่ไม่ค่อบถูกกับน้ำยาล้างเลนส์
ก็สามารถใช้น้ำเกลือล้างเลนส์ก่อนใส่เลนส์เข้าตาได้เหมือนกันค่ะ
แต่กลับกันถ้าใครไม่ถูกกับน้ำเกลือ ก็ใช้ล้างเลนส์ก่อนเก็บลงแช่พอนะจ๊ะ

บิ๊กอายยี่ห้ออะไรใส่สบายตาที่สุด?

ถ้าคุณถามเพื่อนคุณว่า "เธอว่าเราใส่บิ๊กอายยี่ห้อไหนจะสบายตาที่สุด?"
แน่นอน คำตอบคือ . . . . "ไม่รู้"

ถ้าได้ยินคำตอบแบบนี้ อย่าหาว่าเพื่อนคุณกวนโอ้ยเลยนะ เพราะเพื่อนคุณตอบถูกแล้วค่ะ
คอนแทคเลนส์หรือบิ๊กอายยี่ห้อไหนจะเหมาะกับเราที่สุด ไม่มีใครบอกได้ค่ะ
จนกว่าเราจะได้ลองใส่ ด้วยตัวเราเอง แม้ว่าจักษุแพทย์จะสามารถวัดค่าต่างๆคร่าวๆเกี่ยวกับตาเราได้
แต่เมื่อมาถึงคอนแทคเลนส์แล้ว ท่านก็จะให้เราลองใส่ก่อนอยู่ดี ถึงจะบอกได้ว่าเข้ากับเราหรือไม่
เพราะฉะนั้น อย่ามัวถามคนนู้นคนนี้เลยค่ะ ว่าอันไหนดีที่สุด เพราะบิ๊กอายแต่ละยี่ห้อ ไม่ได้ทำมาเพื่อทุกคน
บางยี่ห้อคนอื่นว่าดี เราใส่อาจจะบอกเคืองเป็นบ้าเลยก็ได้ ทางเดียวที่รู้ได้ คือต้องลองค่ะ

จะว่าไปก็เหมือนการหาซื้อเสื้อที่เหมาะกับเรานั้นแหละ
แต่อย่างเดียวที่ต่างกันคือ บิ๊กอายไม่ีมีให้ลอง มีแต่ต้องเสียตังมาลองเอง
และถ้าใส่ไม่ได้ก็มีแต่ทิ้งเลยอีกตะหาก . . เฮ้อ ทำไงได้ ถือซะว่าเป็นค่าเรียนรู้แล้วกันนะคะ

อายุเท่าไรถึงจะใส่คอนแทคเลนส์ได้?

จริงๆแล้วไม่มีกฏตายตัวว่า อายุเท่าไรถึงจะใส่คอนแทคเลนส์หรือบิ๊กอายได้
จะเป็นเด็กหรือคนแก่ ก็สามารถใส่คอนแทคเลนส์ได้เหมือนกัน
แต่สิ่งสำคัญขึ้นอยู่กับความรับผิดชอบส่วนตัวของผู้ใส่มากกว่า
หากผู้ใส่สามารถดูแลรักษาความสะอาด และปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด
ก็สามารถใช้คอนแทคเลนส์ได้ค่ะ

อย่างไรก็ดี หากต้องการเริ่มใส่คอนแทคเลนส์ควรปรึกษาจักษุแพทย์ก่อน
เพื่อตรวจสุขภาพตา และรับคำแนะนำถึงเลนส์ที่เหมาะสมกับเรา
และถ้าหากว่าไม่ได้มีปัญหาด้านสายตาหรือไม่มีความจำเป็นจะต้องใส่
ก็ควรหลีกเลี่ยงการใส่บิ๊กอายเพื่อความสวยงามเพียงอย่างเดียวดีกว่านะคะ :)

บิ๊กอายจะหายเข้าไปในตาได้จริงมั้ย?

ไม่จริง ย้ำ ไม่จริงแน่นอน!!

คอนแทคเลนส์หรืออะไรก็แล้วแต่ ไม่สามารถหายเข้าไปด้านหลังลูกตาได้ค่ะ
เนื่องจากจะมีเนื้อเยื่อที่ปิดอยู่ ทำให้มันเข้าไปไม่ได้
ส่วนใหญ่เมื่อพบว่าคอนแทคเลนส์หายไปจากตา มันจะกระเด็นไปหล่นอยู่ที่ไหนซักแห่งมากกว่า
หรืออย่างมาก คุณอาจจะหามันไม่เจอ เพราะเลนส์มันพับติดอยู่บนปลือกตา
ในกรณีนี้ สามารถหยอดน้ำตาเทียมเพื่อช่วยให้มันไหลออกมาได้ค่ะ
ถ้าไม่ได้จริงๆ ผู้เชี่ยวชาญหรือจักษุแพทย์ช่วยคุณได้ค่ะ

วิธีการถอดคอนแทคเลนส์หรือบิ๊กอาย

1. ล้างมือให้สะอาดและเช็ดให้แห้ง โปรดหลีกเลี่ยงสบู่ผสมน้ำหอม เบบี้ออยล์ หรือโลชั่น

2. เหลือบไปทางใดทางนึง ใช้นิ้วช่วยเปิดตาออก เลื่อนคอนแทคเลนส์ไปตรงตาขาว
และใช้นิ้วโป้งและนิ้วชี้ค่อยๆหยิบคอนแทคเลนส์ออกมา

3. วางเลนส์บนมือ ล้างเลนส์ด้วยน้ำยาทำความสะอาดคอนแทคเลนส์ และเก็บเข้าแช่ในตลับตามเดิม

วิธีการใส่คอนแทคเลนส์บิ๊กอาย

1. ล้างมือให้สะอาดและเช็ดให้แห้ง โปรดหลีกเลี่ยงสบู่ผสมน้ำหอม เบบี้ออยล์ หรือโลชั่น

2. เทคอนแทคเลนส์พร้อมน้ำยาจากตลับใส่มือ และล้างด้วยน้ำยาทำความสะอาดอีกครั้ง

3. วางคอนแทคเลนส์บนนิ้วที่แห้งหรือหมาดจนเลนส์ตั้งทรง ยกคอนแทคเลนส์ขึ้นระดับสายตา และตรวจสอบว่าคอนแทคเลนส์ถูกด้านหรือไม่ คอนแทคเลนส์ควรตั้งเป็นรูปตัว U และส่วนขอบไม่ควรบานออก

4. เหลือบตาขึ้น ใช้นิ้วโป้งและนิ้วชี้ของมืออีกข้าเพื่อช่วยเปิดตา และวางคอนแทคเลนส์ลงบนลูกตา

5. หลับตาลงช้าๆ และกลอกลูกตาเป็นวงกลม เพื่อช่วยให้เลนส์เข้าที่

6. มองกระจกเพื่อตรวจสอบความเรียบร้อย หากมีอาการเคืองตาหรือตาแดงผิดปกติ ควรถอดออกทันที

อุปกรณ์สำหรับบิ๊กอายมีอะไรบ้าง?

ถ้าหากว่าคุณตัดสินใจว่าจะลองใส่บิ๊กอายแล้ว อย่าเพิ่งตรงดิ่งไปซื้อมาใส่เข้าตาเลยทันทีนะคะ!
เพราะการใส่คอนแทคเลนส์ ไม่ใช่ว่าจะมีแค่เลนส์มาก็ใส่ได้เลย
เรายังคงต้องเตรียมอุปกรณ์ต่างๆสำหรับเก็บรักษาเลนส์ไว้ให้พร้อมด้วยค่ะ

ในบทความนี้ เราจะแบ่งอุปกรณ์เป็นสองประเภท ก็คืออุปกรณ์จำเป็น และอุปกรณ์เสริมค่ะ

อุปกรณ์จำเป็น = ต้องมีเตรียมไว้ก่อนใส่แน่นอนค่ะ
1. ตลับคอนแทคเลนส์


2. น้ำยาทำความสะอาดคอนแทคเลนส์


ปกติแล้ว เมื่อเราซื้อน้ำยาทำความสะอาดคอนแทคเลนส์ เราจะได้รับตลับเลนส์แถมมาด้วยค่ะ
เพราะฉะนั้นก็เลือกซื้อน้ำยาที่แถมตลับ เท่านี้ก็พร้อมใช้งานคอนแทคเลนส์แล้วค่ะ

อุปกรณ์เสริม = มีก็ดีไม่มีก็พอได้อยู่ หรือใช้ไปซักอาทิตย์สองอาทิตย์ไปซื้อเพิ่มก็ยังไม่สาย
1. น้ำตาเทียม

หน้าตาของมันจะเป็นขวดเหมือนยาหยอดตาค่ะ
อย่าลืมเลือกซื้อน้ำตาเทียมที่ใช้สำหรับคอนแทคเลนส์โดยเฉพาะนะคะ

2. น้ำยาละลายคราบโปรตีน

มีทั้งแบบขวดเหมือนยาหยอดตา และแบบเป็นหลอดเล็กใช้แล้วทิ้งค่ะ
น้ำยาตัวนี้เป็นแบบเข้มข้น ใช้หยดลงไปในน้ำยาทำความสะอาดคอนแทคเลนส์อีกทีค่ะ
อย่าเผลอเอาไปหยอดตาเด็ดขาดนะคะ อันตรายมากค่ะ

*อุปกรณ์ทั้งหมดมีหลายยี่ห้อหลายราคา สามารถหาซื้อได้ตามร้านขายยาทั่วไป
ควรอ่านฉลากและเอกสารกำกับยาอย่างละเอียดก่อนใช้งาน

DIA, B.C, และ Water Content คืออะไร?

เมื่อเราเริ่มสนใจที่จะหาคอนแทคเลนส์หรือบิ๊กอายมาใส่บ้าง
เราก็เลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องเจอกับคำศัพท์ใหม่ๆมากมายชวนปวดหัว
ซึ่งในบทความนี้ เราก็จะมาทำความรู้จักกับ 3 คำ ที่เราควรทราบก่อนจะใส่คอนแทคเลนส์กันค่ะ

1. DIA หรือ Diameter
ค่า Diameter ถ้ากดดิกแปลเป็นไทย ก็จะหมายความว่าเส้นผ่าศูนย์กลาง
และถ้าเราเคยเรียนเลขมาบ้างตอนประถม ก็คงไม่ยากเกินไปที่จะเข้านะคะ ;)
สำหรับเส้นผ่าศุนย์กลางของคอนแทคเลนส์ จะวัดจากขอบเลนส์ด้านนึง
ไปยังอีกด้านนึง ในขณะที่เลนส์โค้งอยู่ค่ะ DIA ของคอนแทคเลนส์ทั่วไป
จะอยู่ที่ 14.0 - 15.0 มิลลิเมตรค่ะ (ตาดำปกติมีขนาดประมาณ 12 - 13 มิลลิเมตร)
ค่านี้จะบ่งบอกได้ถึงความใหญ่ของคอนแทคเลนส์ค่ะ ยิ่งตัวเลขมาก เลนส์ยิ่งมีขนาดใหญ่มาก
แต่ไม่ใช่ว่าเลนส์ใหญ่มาก จะใส่แล้วทำให้ตาดูโตมากเสมอไปนะคะ
เพราะตัวที่บอกว่าใส่แล้วจะดูตาโตหรือไม่ ขึ้นอยู่ที่ลายที่พิมพ์มาบนเลนส์ด้วย
ไม่ใช่ขนาดของเลนส์อย่างเดียวค่ะ

2. B.C หรือ Base Curve
ค่า Base Curve จะบ่งบอกถึงรัศมีความโค้งของคอนแทคเลนส์ค่ะ โดยทั่วไปจะอยู่ที่ 8.5 - 8.7 mm
ถ้าใส่เลนส์แล้วรู้สึกว่าหลวม (ในกรณีที่ใส่ถูกด้านแล้ว) ควรจะเลือกค่า B.C น้อยลง
แต่ถ้าใส่แล้วรู้สึกว่าเลนส์คับตา ตามีรอยแดงเป็นวง ควรจะเพิ่มเป็น B.C ที่มากขึ้นค่ะ

3. Water Content (%) หรือ ค่าอมน้ำ คือปริมาณน้ำที่คอนแทคเลนส์นั้นอมไว้ได้ค่ะ
โดยทั่วไปบิ๊กอายหรือพวกคอนแทคเลนส์สีจะมีค่าอมน้ำตั้งแต่ 38% - 48% ค่ะ
เลนส์ที่มีค่าอมน้ำมาก จะช่วยในเรื่องการไหลผ่านของออกซิเจนได้ดี ทำให้ใส่แล้วสบายตา ไม่ล้าง่าย
แต่เลนส์ที่มีค่าอมน้ำมาก จะไม่เหมาะกับคนที่มีตาแห้ง เพราะเลนส์จะอมน้ำในตาไปมาก ทำให้รู้สึกตาแห้งง่ายขึ้นค่ะ

Bigeye (บิ๊กอาย) คืออะไร?

ทุกวันนี้ เพื่อนๆคงจะได้ยินคำว่า Bigeye หรือ บิ๊กอาย กันบ่อยๆ
แต่บางคนก็อาจจะยังงงๆว่า ตกลงบิ๊กอายที่เค้าพูดๆกัน มันหมายถึงอะไรกันเนี่ย!?

จะว่าไป Bigeye ก็คือคอนแทคเลนส์ประเภทหนึ่งค่ะ
ซึ่งความพิเศษของมันก็คือ มันมีลายที่จะทำให้เมื่อใส่แล้วดูเหมือนเราตากลมโตขึ้น
มันก็เลยได้ชื่อเล่นไปว่า Bigeye หรือคอนแทคเลนส์ตาโตนั้นเองค่ะ

ถ้าพูดถึงบิ๊กอายเอง ก็ยังสามารถแบ่งไปได้อีกหลายประเภทเลยค่ะ
ทั้งแบ่งตามประเภทสี หรือว่าโตมากโตน้อย รายละเอียดก็เอาไว้ว่ากันในบทความหน้านะคะ

ทีนี่บางคนก็คงจะมีคำถามต่อไปอีกว่า แล้วจะตาโตมันดียังไง?
คำตอบก็คือ การที่เรามีตาดำโตขึ้น ก็จะเหมือนเรากลับไปเป็นเด็กอีกครั้งค่ะ
ไม่เชื่อก็ลองดูตาของเด็กๆ เทียบกับตาของคุณดูสิคะ :)